Page 85 - คู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
P. 85

(๓)   เก็บหรือน�าพืช สิ่งต้องห้าม สิ่งก�ากัด สิ่งไม่ต้องห้าม หรือสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องในปริมาณ

                                      พอสมควรไปเป็นตัวอย่าง เพื่อตรวจสอบหรือวิเคราะห์ เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็น
                                      หรือมีศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงมาก

                                  (๔)   ยึด หรือกักไว้ซึ่งพืช สิ่งต้องห้าม สิ่งก�ากัด สิ่งไม่ต้องห้าม หรือสิ่งใด ๆ ที่เกี่ยวข้องตาม
                                      ก�าหนดเวลาที่เห็นจ�าเป็น เมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเป็นหรือมีศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิด

                                      ความเสียหายร้ายแรงมาก
                        (ความในมาตรา ๑๓ ถูกยกเลิกโดยมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒

            และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน)
                        (ความในมาตรา ๑๓ ถูกยกเลิกโดยมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑

            และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน)
                        มาตรา ๑๓ เพื่อป้องกันศัตรูพืชมิให้ระบาดเข้ามาในราชอาณาจักรให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอ�านาจ

            ปฏิบัติการเกี่ยวกับพืช สิ่งต้องห้าม สิ่งก�ากัด สิ่งไม่ต้องห้าม หรือเชื้อพันธุ์พืช ที่น�าเข้าหรือน�าผ่านดังต่อไปนี้
                                  (๑)   ตรวจวินิจฉัยศัตรูพืช รมยา พ่นยา หรือใช้วิธีการอื่นใดตามที่เห็นว่าจ�าเป็นโดยเจ้าของ

                                      หรือผู้ครอบครองเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
                                  (๒)   ยึดหรือกักไว้ ณ สถานกักพืช หรือ ณ ที่ใด ๆ ตามก�าหนดเวลาที่เห็นว่าจ�าเป็น

                                  (๓)   สั่งให้ผู้น�าเข้าซึ่งพืช สิ่งต้องห้าม สิ่งก�ากัด สิ่งไม่ต้องห้าม หรือเชื้อพันธุ์พืชที่มีศัตรูพืช
                                      ติดเข้ามาด้วย ส่งสิ่งนั้นออกไปนอกราชอาณาจักร

                                  (๔)   ท�าลายเท่าที่เห็นว่าจ�าเป็น ในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อว่ามีศัตรูพืชที่อาจก่อให้เกิด
                                      ความเสียหายร้ายแรงมากและไม่อาจด�าเนินการแก้ไขโดยวิธีตาม (๑) ได้

                        (ความในมาตรา ๑๓/๑ เพิ่มโดยมาตรา ๑๖ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังนี้)
                        มาตรา ๑๓/๑ บรรดาสิ่งที่เก็บ ยึดหรือกักไว้ตามมาตรา ๑๒ (๓) และ (๔) และมาตรา ๑๓ (๒) ถ้าไม่ปรากฏ

            เจ้าของหรือผู้ครอบครอง หรือพนักงานอัยการสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี หรือศาลมีค�าพิพากษาถึงที่สุดไม่ให้ริบ และผู้เป็น
            เจ้าของหรือผู้ครอบครองมิได้ร้องขอรับคืนภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ยึดหรือกักหรือวันที่ทราบค�าสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดี

            หรือวันที่ศาลพิพากษาถึงที่สุดไม่ให้ริบ แล้วแต่กรณี ให้ตกเป็นของกรมวิชาการเกษตร
                        ถ้าสิ่งที่เก็บ ยึดหรือกักไว้ตามวรรคหนึ่งเป็นของเสียหายง่าย หรือถ้าเก็บไว้จะเป็นการเสี่ยงต่อความเสียหาย

            หรือจะเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาเกินค่าของสิ่งนั้นให้อธิบดีมีอ�านาจสั่งท�าลาย หรือจัดการอย่างอื่นตามที่เห็นสมควร
                        (ความในมาตรา ๑๔ ถูกยกเลิกโดยมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒

            และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน)
                        มาตรา ๑๔ ห้ามมิให้บุคคลใดน�าพืช สิ่งต้องห้าม สิ่งก�ากัด หรือเชื้อพันธุ์พืชออกไปจากด่านตรวจพืช

            สถานกักพืช หรือยานพาหนะในกรณีน�าผ่านราชอาณาจักร หรือจากที่ใด ๆ ซึ่งพนักงานเจ้าหน้าที่ได้สั่งยึดหรือกักไว้
            เว้นแต่ได้รับอนุญาตเป็นหนังสือจากพนักงานเจ้าหน้าที่

                        (ความในมาตรา ๑๕ ถูกยกเลิกโดยมาตรา ๘ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒
            และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน)

                        (ความในมาตรา ๑๕ ถูกยกเลิกโดยมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติกักพืช (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๑
            และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน)





                                                            คู่มือกำรให้ควำมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้ำนกำรเกษตร  81
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90