Page 120 - คู่มือการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
P. 120
บทที่ ๓
แนวทางปฏิบัติการจัดการภัยพิบัติด้านการเกษตร
ภัยพิบัติด้านการเกษตร ได้แก่ อุทกภัย ภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง วาตภัย อัคคีภัย ภัยหนาว และภัยจากการระบาด
เช่น โรคระบาดสัตว์ โรคระบาดพืช โรคระบาดสัตว์น�้า การระบาดของศัตรูพืช การระบาดของสัตว์ศัตรูพืช หรือภัยอื่น ๆ
ไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติ หรือมีบุคคลหรือสัตว์ท�าให้เกิดขึ้น ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตร่างกายของประชาชน หรือ
ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของประชาชนหรือรัฐ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ก�าหนดแนวทางปฏิบัติการจัดการภัยพิบัติด้านการเกษตร โดยด�าเนินการ
ตามโดยได้น�าหลักการ “Smart DRM for ๓s : SEP – SDGs - SEDRR” คือ การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยแบบ
อัจฉริยะ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Sufficiency Economy Philisophy : SEP) เพื่อการ
พัฒนาอย่างยั่งยืนตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Susstainable Development Goals : SDGs) เพื่อลดความเสี่ยง
เดิมและป้องกันความเสี่ยงใหม่ (Sendai Framework on Disaster Risk Reduction : SEDRR) มาเป็นแนวทาง
การด�าเนินงาน เพื่อจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยแบบองค์รวม (Holistic Approach) ตั้งแต่กิจกรรมการป้องกัน
และลดผลกระทบ การเตรียมความพร้อม การเผชิญเหตุ และบรรเทาทุกข์ ตลอดจนการฟื้นฟู ซึ่งในบางกิจกรรม
การด�าเนินการในแต่ละห้วงเวลาการเกิดสาธารณภัยอาจมีความคาบเกี่ยวกัน (Over lap) ขณะที่บางกิจกรรมอาจเป็นการ
ด�าเนินการเฉพาะของการเกิดภัยในห้วงนั้น ๆ รวมทั้งระยะเวลาในการด�าเนินการของแต่ละกิจกรรมขึ้นอยู่กับความรุนแรง
ของภัยเป็นส�าคัญ ซึ่งวงจรการจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัยถูกมองในมุมมองของทั้งกรอบแนวคิดในการด�าเนินการ/
การปฏิบัติ (Discipline) และมุมมองของกิจกรรมหรือวิธีปฏิบัติ (Activities and Procedures)
การจัดการความเสี่ยงจากสาธารณภัย (Disaster Risk Management) แบ่งการ
ด�าเนินงานออกเป็น ๓ ระยะ ได้แก่
ระยะก่อนเกิดภัย : การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ (Disaster Risk Reduction)
การป้องกันและการลดผลกระทบ (Prevention & Mitigation) เป็นการด�าเนินการช่วงก่อนเกิดภัย
ทั้งที่ใช้โครงสร้างและไม่ใช้โครงสร้าง โดยการวิเคราะห์และจัดการกับปัจจัยที่เป็นสาเหตุและผลกระทบของสาธารณภัย
เพื่อลดโอกาสที่สาธารณภัยจะสร้างผลกระทบต่อบุคคล ชุมชนหรือสังคม รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
ในอนาคต ได้แก่ การประเมินความเสี่ยงจากสาธารณภัย การก�าหนดมาตรฐานความปลอดภัยในการก่อสร้างอาคาร
การเสริมสร้างความแข็งแรงของตลิ่ง การขุดลอกคูคลอง/ท่อระบายน�้า การปรับแผนการเกษตรเพื่อกระจายความเสี่ยง
วางแผนการจัดสรรน�้า วิเคราะห์ประเมินความเสี่ยงเพื่อก�าหนดพื้นที่เสี่ยงด้านพืช ด้านประมง ด้านปศุสัตว์ รวมทั้ง
พื้นที่ชุมชนพร้อมแผนบริหารจัดการเพื่อลดความเสี่ยงดังกล่าว แผนปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัย
ฝนทิ้งช่วงและเติมน�้าในแหล่งน�้าที่มีปริมาณน้อย เป็นต้น
116 คู่มือกำรให้ควำมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติด้ำนกำรเกษตร

